"พลังจิตใต้สำนึก" มีมากมายมหาศาลจนน่าทึ่ง
ผู้ที่ประสบความสำเร็จมากมายในโลกนี้ล้วนแล้วแต่ใช้พลังจิตใต้สำนึกทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว
ซึ่งจิตใต้สำนึกอาจจะส่งพลังมาในรูปแบบของความฝัน เสียงกระซิบในหัว หรือลางบอกเหตุ
ที่ทำให้เราทำบางอย่างจนสำเร็จได้ในที่สุด เช่น โจน ออฟ อาร์ก สาวอายุ 16
ปี ถูกความฝันเตือนถึง 3 ครั้ง
จึงประกอบวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ด้วยการนำทหารฝรั่งเศษรบชนะกองทัพอังกฤษได้
หรือ
ท่านนบี มูฮัมหมัด ถูกเสียงกระซิบจากสวรรค์เตือนหลายครั้งจึงเริ่มประกาศพระศาสนา
ท่านก็สามารถเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จและยิ่งใหญ่อย่างพวกคนเหล่านั้นได้ถ้ารู้จักนำเอาพลังอำนาจจากจิตใต้สำนึกมาใช้
ในหนังสือเดอะ ท็อป
ซีเคร็ต ของ ทันตแพทย์สม สุจิรา ได้เรียบเรียงและสรุปเป็นข้อๆไว้น่าสนใจมาก
เชื่อว่าท่านผู้อ่านที่สนใจในเรื่องนี้จะได้ประโยชน์และประหยัดเวลาในการศึกษาข้อมูล
สรุปไว้ดังต่อไปนี้ค่ะ
1. จิตใต้สำนึก คือฐานข้อมูลความคิด
และความรู้สึกที่เกิดขึ้นซ้ำกันบ่อยๆจนตกตะกอนแล้ว
2. จิตใต้สำนึกไม่ได้เชื่อมต่อกับทวารทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย
ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเห็นอะไร ได้ยินอะไร
แต่จะบันทึกเฉพาะส่วนที่เป็นความรู้สึกพร้อมกับภาพในจินตนาการเท่านั้น
3. หากคุณรู้สึกอิจฉาริษยาในความสำเร็จ
การได้เลื่อนตำแหน่งหรือความร่ำรวยของคนอื่น จิตใต้สำนึกจะเข้าใจว่า
คุณไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้น
จึงบันดาลให้คุณไม่มีโอกาสได้พบดังนั้นจึงควรร่วมแสดงความยินดีกับผู้อื่นที่ประสบความสำเร็จ
เพื่อส่งสัญญาณไปยังจิตใต้สำนึกว่า คุณต้องการประสบกับสิ่งเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
4. จิตใต้สำนึกไม่เข้าใจสมมติบัญญัติของโลก เช่น จำนวนเงิน
แต่บันทึกไว้ในรูปแบบของความรู้สึกแทน ดังนั้นคนที่ทำบุญ 10 บาท
ด้วยความศรัทธาเต็มเปี่ยม กับคนที่ทำบุญแสนบาทด้วยศรัทธาเท่ากัน
ข้อมูลที่บันทึกไว้ในจิตใต้สำนึกก็จะเท่ากัน
5. จักรวาลมีคลื่นความถี่ ตัวคุณเปรียบเสมือนจอรับภาพ
ถ้าต้องการภาพชีวิตแบบไหน ก็เพียงแต่ปรับความถี่ของจอรับภาพให้ตรงกับคลื่นความถี่ของจักรวาล
6. จิตใต้สำนึกจะแยกไม่ออกระหว่างภาพในจินตนาการกับภาพจากประสบการณ์จริง
ดังนั้น
การที่คุณสร้างจินตนาการภาพในใจขึ้นก็เหมือนกับการบอกให้จิตสำนึกบันทึกภาพนี้ไว้
บันดาลให้เกิดขึ้นจริงต่อไป
7. จิตใต้สำนึกเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก
ต่างจากจิตใต้สำนึกซึ่งเกี่ยวข้องกับความคิดและสมอง
8. จิตใต้สำนึกจะไม่เข้าใจภาษา แต่จะบันทึกเฉพาะสิ่งที่เป็นความรู้สึก
จึงไม่เข้าใจคำว่า "ไม่" "อย่า" ดังนั้นคุณจึงควรคิดแต่ทางบวก
อย่าไปคิดในสิ่งที่ตนเองไม่ต้องการ เช่น ไม่ควรคิดว่าฉันไม่อยากอ้วน
แต่ให้เปลี่ยนเป็นรูปร่างในฝันของฉันคือผอมเพรียวแทน
9. เมื่อฝึกพูดบวก คิดบวก จนเป็นนิสัย
จิตใต้สำนึกก็จะบันดาลให้สิ่งที่คุณคิดเกิดขึ้นจริง
แล้วจะพบว่าสิ่งดีๆเข้ามาสู่ชีวิตคุณมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
เห็นไหมล่ะว่า
จิตใต้สำนึกนั้นมีอานุภาพมากมหาศาล สามารถสร้างมหาบุรุษได้
คุณเองก็สามารถดลบันดาลทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการได้
เพียงแต่คุณต้องรู้จักนำเอาพลังของจิตใต้สำนึกมาใช้.....
วอลเตอร์ เอ็ม
เยอร์เมน ได้ค้นคว้าเรื่องอำนาจจิตมาเป็นเวลานานหลายปี ได้บอกเคล็ดลับวิธีสร้างอำนาจจิตไว้ดังต่อไปนี้
1. ก่อนนอนทุกคืน จงหย่อนคลายร่างกายทุกส่วนให้รู้สึกสบายๆ
เพื่อเปิดหนทางเพ่งกระแสจิตลงไปยังจิตวิสามัญสำนึก
2. จงพยายามพร่ำบอกตัวเองในความคิดที่ตนปรารถนา
จงสร้างความปราถนาอย่างแน่วแน่
3. ครั้งแรก วิธีที่ดีที่สุดก็คือ จงท่องความต้องการนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า
ถ้าอยู่ลำพังไม่รบกวนผู้อิ่น ก็ควรท่องเสียงดังๆด้วย
4. เมื่อคุณสามารถส่งกระแสจิตลงไปยังจิตวิสามัญสำนึกได้แล้ว คุณจะพบว่าต่อไป
คุณอาจบอกตัวเองและบรรลุผลที่ต้องการอย่างเงียบๆและเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ความคิดที่แน่วแน่ที่ส่งไปยังจิตใต้สำนึก จะผลออกมาทางกล้ามเนื้อ
นั่นคือ เมื่อท่านคิดอะไรบ่อยๆ มันก็จะมีผลออกมาเป็นการกระทำ ฉะนั้น
เคล็ดลับที่บุคคลสำคัญของโลกใช้ในการทำให้บรรลุเป้าหมายก็คือ "การคิด" นั่นเอง
ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะประสบความสำเร็จได้โดยไม่เริ่มต้นด้วยการคิด!